29 มิถุนายน 2552

บ่อเหล็กน้ำพี้

ชาวบ้านกำลังสาธิตการทำลูกปะคำโดยผสมแร่เหล็กน้ำพี้ลงในดิน

รั้งหนึ่ง ผมมีโอกาสไปทำงานที่อุตรดิตถ์ ตอนนั้นทางจังหวัดกำลังประชาสัมพันธ์และโฆษณาจังหวัด ในฐานะแหล่งท่องเที่ยวแหล่งใหม่ของประเทศ

หนึ่งในโปรแกรมที่ทางจังหวัดต้องการนำเสนออย่างยิ่ง คือบ่อเหล็กน้ำพี้ ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งแร่เหล็กที่ดีมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ ดีถึงขั้นว่าเป็นแหล่งต้นทางวัตถุดิบของมหาศาสตราของกษัตริย์ในสมัยโบราณ

กลวิธีส่งเสริมการท่องเที่ยวของที่นี่ คือการนำแม่เหล็กมาผูกติดกับเชือกและไม้ไผ่เป็นคันเบ็ด จากนั้นจึงให้นักท่องเที่ยวหย่อนลงไปในบ่อ เพื่อดูดเอาหินเล็กหินน้อยที่มีแร่เหล็กกลับบ้านเป็นที่ระลึก

นอกนั้นก็เป็นการสาธิตทำลูกประคำ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และจบด้วยซื้อของที่ระลึกกลับบ้าน

ขณะที่เราเข้าใจกันไปตามข้อมูลประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว ทว่าข้อเท็จจริงคือทุกวันนี้แร่เหล็กในบ่อนั้นแทบจะหมดเกลี้ยงแล้ว เหลือก็แต่เพียงแร่บางๆที่ฝังตัวในเนื้อหินเล็กๆ พอๆกับลูกอมฮอลล์

จากการสอบถามชาวบ้าน ได้ความว่า ในสมัยก่อน พื้นที่ย่านนั้นแห้งแล้งและกันดารมาก การตีและถลุงเหล็กต้องไปทำกันไกลในแหล่งที่มีน้ำ ตามห้วยหรือบ่อเล็กๆ เมื่อถลุงและตีจนได้สิ่งที่ต้องการแล้ว สิ่งที่ยังเหลืออยู่ตามพื้นคือขี้ตะกรัน อันเป็นเหมือนกากของเหลือจากแร่เหล็ก

นากจากขี้ตะกรันที่ทิ้งกองไว้มหาศาลแล้ว ยังมีขี้ตะกรันที่ตกหล่นระหว่างทางการขนส่งอีกมาก

ในอดีตนั้น ไม่มีใครเขาเอาหรอกครับขี้ตะกรัน เพราะแร่เหล็กยังมีอยู่มาก และเหลือเฟือพอจะถลุงเอาไปใช้ได้อีกหลายสิบปี แต่ทุกวันนี้แร่เหล็กนั้นร่อยหรอลงไปมาก ดังนั้นเจ้าขี้ตะกรันถึงได้มีค่าขึ้นมา

ทราบไหมครับว่ามีดดาบที่ขายในร้านขายของที่ระลึก เป็นมีดที่ตีจากขี้ตะกรัน ไม่ได้ตีจากแร่เหล็กอย่างที่เราเชื่อกัน แต่หากต้องการงานจากแร่เหล็ก ต้องสั่งทำ และก็จะมีราคาสูงมาก

ซ้ำเมื่อผมถามชาวบ้านว่า เครื่องมือเครื่องใช้ในบ้านพวกเขา ผลิตใช้กันเองหรือเปล่า คำตอบคือในอดีตน่ะใช่ แต่ทุกวันนี้พวกเขาก็ซื้อมีดตะหลิวตะบวยจากตลาดนัดเหมือนกับเราๆ ส่วนมีดดาบน้ำพี้ของเก่าในบ้านนั้นเล่า ก็ขายเอาเงินหรือไม่ก็ถลุงซ้ำมาขายนักท่องเที่ยวกันหมดแล้ว

ผมเองก็ไม่ได้รู้สึกโดนตุ๋นข้อมูลแต่อย่างใด เพราะเชื่อว่านี่คือความจริงของแหล่งทรัพยากรที่มีวันหมด ไม่ต่างอะไรกับพลอยหรือทับทิมทางภาคตะวันออก ที่วันหนึ่งก็ถูกขุดพลิกจนเหี้ยนหาย ไม่ต่างอะไรกับบ่อน้ำมันก๊าซธรรมชาติที่วันหนึ่งก็ต้องลดน้อยถอยผลิต มันเป็นธรรมดาของโลกครับ

โลกที่มีมนุษย์อยู่

นายก อบต.กำลังสาธยายความขลังของเหล็กน้ำพี้ ชาวบ้านปรบมือให้กับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่มาเยี่ยมถึงหมู่บ้าน และนักข่าวคอลัมนิสต์สายท่องเที่ยวหลายคนกำลังบันเทิงกับการตกแร่เหล็กเพื่อเอากลับไปเป็นที่ระลึก

ส่วนผมกินไอศครีมดับร้อนและรอขึ้นรถกลับบ้าน

ถ้าไมเคิลยังไม่ตาย

ธนบัตรรูปไมเคิล ที่ขายในอีเบย์
วันที่ข่าวการตายของไมเคิล แจ็คสันครึกโครม วันนั้นผมยังไม่ทราบข่าวเลยแม้แต่น้อย
เช้าวันนั้นผมไปเปิดบัญชีธนาคาร และเพิ่งทราบข่าวก็ราวสิบโมงกว่าๆจากบทสนทนาของเพื่อนร่วมงาน
หลายต่อหลายความเห็นประเดประดังเข้ามา อย่างหนึ่งที่ผมเองก็รู้สึกไม่ต่างจากคนส่วนใหญ่คือ ใจหายเล็กๆ

แต่นอกจากนั้นความคิดแผลงๆก็แยงเข้ามา

ราวปีที่แล้ว ในงานปาร์ตี้ของบริษัท ผมมีโอกาสสนทนากับเพื่อนต่างแผนกในประเด็นที่เราต่างสนใจทั้งคู่
บทสนทนาเผ็ดร้อนของเราฉ่าไปไกล ด้วยเรื่องของดนตรี ศิลปิน และวงการ ยิ่งเมื่อรินน้ำเมาผสมด้วยแล้ว ก็ยิ่งพาให้ความคิดสร้างสรรค์เตลิด

เขาพูดถึงศิลปินระดับตำนานผู้ล่วงลับหลายคนอย่างเคิร์ท โคเบน จิมี เฮนดริกซ์ ไปจนถึงเอลวิส เพลสลีย์
เขาว่าบุคคลเหล่านี้ไม่ได้จากโลกนี้ไป ทว่าพวกเขาสร้างข่าวว่าวายปราณ หากแต่ยังวนเวียนอยู่ในวงการเพลง เขาเล่าว่า จิมี เฮนดริกซ์ คือเบื้องหลังความโด่งดังของศิลปินป็อปหลายๆคน อย่างบริทนีย์ สเปียร์ หรือแม้แต่มาดอนน่า

คิดให้เล่นๆ หากเรื่องนี้เป็นจริง นี่คงเป็นชนวนให้ผมเอาไปเขียนนิยายได้เลย

เมื่อวันที่ไมเคิลเสียชีวิต เจ้าก้อนไอเดียนี้ก็แหลมขึ้นมาในหัวผม

ถ้าไมเคิลยังไม่ตายล่ะ

คำพูดหนึ่งของไมเคิล ที่ได้ยินจากสื่อคือเขาต้องการจากไปอย่างเอลวิส แต่ไม่ต้องการจากไปอย่างมาลอน แบรนโด (ชราภาพ) นั่นแสดงว่าเขาคงต้องการให้แผนภูมิชีวิตของเขาอยู่ในช่วงรุ่งโรจน์ และขอตัดตอนจบโดยที่มันยังไม่ลดลงมาจนต่ำกว่าค่าถัวเฉลี่ย

หากผมเป็นไมเคิล ไอเดียลาโลกแต่ชื่อก็เป็นความคิดที่ดี แต่กระนั้นคงลำบากอีกไม่น้อยหากต้องหลบลี้หนีจากสังคมไปเรื่อยๆจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต (จริงๆ)

เปรียบก็คงเป็นการเกษียณอายุแบบสะบั้น สะบั้นจากโลกไปเลย

นี่ผมก็คิดแค่เล่นๆ แม้ว่ามันคงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว (หรือเปล่้า)

ไม่อย่างนั้น พุ่มพวง ดวงจันทร์ ก็น่าจะยังไม่ตาย

จริงไหมครับลูกเพชรกับพ่อไกรสร